มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ACTION ON SMOKING AND HEALTH FOUNDATION
Press Release
ศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
วันที่ 17 พฤษภาคม 2568
วันที่ข่าวตีพิมพ์ : สามารถเผยแพร่ได้ทันที
เครือข่ายควบคุมยาสูบภาคใต้รวมพลัง “คนใต้ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า”
สร้างกระแสวันงดสูบบุหรี่โลก ชู “นิโคติน เสพติด จน ตาย”
วันนี้ (17 พฤษภาคม 2568) เครือข่ายควบคุมยาสูบภาคใต้รวมพลัง จัดกิจกรรมรณรงค์สร้างกระแส “วันงดสูบบุหรี่โลก 2568 : คนภาคใต้ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” เพื่อให้เกิดการสื่อสารสร้างกระแสในระดับพื้นที่ให้กว้างขวาง ให้มีความรู้ ตระหนักถึงโทษและพิษภัยการเสพติดนิโคตินของบุหรี่ไฟฟ้า นำโดย สมาคมสื่อชุมชนภาคใต้นครศรีธรรมราช ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่, เครือข่ายยุวทัศน์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสังคมและสิ่งแวดล้อม และภาคีเครือข่ายจังหวัดนครศรีธรรมราช สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นางวจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานในการเปิดงานกล่าวว่า การระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนในจังหวัดภาคใต้ โดยร่วมกันรณรงค์สร้างกระแสป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้ากับกลุ่มเด็กและเยาวชนถือเป็นวาระแห่งชาติ เพราะปัญหาการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการเร่งปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนของชาติ จากพิษภัยของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ปัญหาการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในภาคใต้ยังคงเป็นเรื่องที่น่าห่วงใย จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุด พ.ศ.2567 พบว่า ภาคใต้มีอัตราการสูบบุหรี่สูงที่สุดในประเทศ อยู่ที่ร้อยละ 22.1 โดยเฉพาะในจังหวัดกระบี่ มีอัตราการสูบบุหรี่สูงที่สุดคือ ร้อยละ 27.1 รองลงมา คือจังหวัดนครศรีธรรมราช ร้อยละ 25.59, ระนอง ร้อยละ 25.53,พัทลุง ร้อยละ 24.06, ปัตตานี ร้อยละ 23.93 และตรัง ร้อยละ 23.49 ตามลำดับ ซึ่งมีอัตราการสูบบุหรี่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ
นอกจากนี้ การสำรวจในนักเรียนมัธยมศึกษาภาคใต้ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ร้อยละ 14.5 เคยใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยนักเรียนชายมีอัตราการใช้สูงกว่านักเรียนหญิงอย่างมีนัยสำคัญ สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงความจำเป็นในการเร่งรณรงค์และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับพิษภัยของการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า การจัดกิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและชื่นชมเป็นอย่างยิ่งที่ภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบภาคใต้ และอีกหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม ร่วมกันสร้างกระแสรณรงค์ให้เกิดการรับรู้และปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยอันตรายของการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และแรงบันดาลใจให้กับทุกภาคส่วน ร่วมรณรงค์อย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง รวมถึงส่งเสริมให้เกิดสังคมปลอดบุหรี่ในภาคใต้ของเราอย่างยั่งยืน นางวจิราพร กล่าว
ขณะที่ นายพิทยา จินาวัฒน์ คณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า บทบาทของ สสส. ซึ่งมีหน้าที่ริเริ่ม ผลักดัน กระตุ้น สนับสนุน และร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการขับเคลื่อน กระบวนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อให้บรรลุผลในการลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร กระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความเชื่อ และการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม ให้เอื้อต่อคุณภาพชีวิต ช่วยลดภาระทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งปัญหาการคุกคามของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นสงครามที่ยากจะเอาชนะได้ ต้องเกิดจากการรวมพลังกันทุกภาคส่วนที่ร่วมใจรวมพลังกันต่อสู้เหมือนงานในวันนี้ ซึ่งการทำสงครามกับบุหรี่ สมรภูมิเปลี่ยนไปหมดแล้ว เนื่องจากการ disrupt ของเทคโนโลยี สิ่งที่ทำให้เปลี่ยนคือ การมาของบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะความน่าเป็นห่วงในกลุ่มเป้าหมายใหม่ คือ เพศหญิง กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้น จะเห็นว่าตอนนี้ผู้หญิงไทยสูบบุหรี่มวนร้อยละ 1.3 แต่เยาวชนที่เป็นผู้หญิง พบว่าสูบบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ถึงร้อยละ 15 และหากบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย จะเป็นการเพิ่มอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนหญิงสูงเพิ่มไปถึง 30-40% เลยที่เดียว ดังนั้น ถ้ามีความร่วมมือกันในทุกฝ่าย ทุกภาคีเครือข่าย นอกจากนั้น ยังต้องอาศัยความร่วมมือการสื่อสารกับอินฟลูเอนเซอร์ที่จะช่วยสื่อสารกับสังคมได้รับรู้ เราต้องใช้ทุกช่องทางและทุกกระบวนในการสื่อสาร เพื่อปกป้องลูกหลานไทยให้รอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า นายพิทยา กล่าว
ด้านนายอานนท์ มีศรี นายกสมาคมสื่อชุมชนภาคใต้นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า กิจกรรมสร้างกระแส “วันงดสูบบุหรี่โลก 2568: คนภาคใต้ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” ในครั้งนี้ องค์การอนามัยโลกกำหนดประเด็นการรณรงค์ว่า “Unmasking the Appeal: Exposing Industry Tactics on Tobacco and Nicotine Products” ประเทศไทยโดยกระทรวงสาธารณสุข จึงใช้ภาษาไทยในการสื่อสารรณรงค์สร้างกระแสว่า “กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า: นิโคติน เสพติด จน ตาย” เพื่อให้ประชาชนตระหนักรู้และร่วมกันเปิดโปงกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมยาสูบที่มุ่งเป้าทำการตลาดเพื่อดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มเด็กและเยาวชนให้เสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ในโอกาสนี้ เพื่อให้เกิดการสื่อสารสร้างกระแสในระดับพื้นที่ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น และเพื่อเชิญชวนชาวใต้ทุกภาคส่วน ร่วมกันสื่อสารและแสดงเจตจำนงในการร่วมกันปกป้องและคุ้มครองสุขภาพของคนใต้ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนชาวใต้ ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงเพื่อสื่อสารให้ภาคีเครือข่ายด้านการควบคุมยาสูบ ได้มีความรู้ ความเข้าใจต่ออันตรายของบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และกลยุทธ์ของบริษัทบุหรี่
โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจาก หลายภาคส่วน ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช, แผนกเวชกรรมสังคม คลินิกฟ้าใส โรงพยาบาลพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช, สมาคมสื่อชุมชนภาคใต้นครศรีธรรมราช, เครือข่ายยุวทัศน์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สังคมและสิ่งแวดล้อม, เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปลอดบุหรี่ โดย องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำผุด จ.ตรัง, เครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ โดย จุดจัดการเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่จังหวัดปัตตานี, เครือข่ายเยาวชน Gen Z Gen Strong เลือกไม่สูบภาคใต้, เครือข่ายศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ Gen Alpha โดย โรงเรียนอนุบาลและศูนย์พัฒนาเด็ก อบต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา, เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน เครือข่ายนักสื่อสารรุ่นใหม่ และ ศูนย์สร้างสรรค์สื่อเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัว ได้ร่วมกันออกบูธนิทรรศการ ให้ความรู้ทางด้านวิชาการ, แจกสื่อประชาสัมพันธ์, เล่นเกม แจกของที่ระลึก/รางวัล, บริการตรวจสุขภาพ และให้คำปรึกษาการเลิกบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า โดยกิจกรรมทั้งหมดจัดขึ้น ณ ลานวัฒนธรรมสวนศรีธรรมาโศกราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างเวลา 16.30-20.00 น. นายอานนท์ กล่าว
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ นางสาววัลภา แก้วศรี 02-278-1828